Shopify SEO คืออะไร?

เมื่อกล่าวถึงกลยุทธ์ในการทำ SEO สำหรับ Shopify คุณสามารถที่จะทำหลายอย่างด้วยตัวคุณเองได้หากว่าคุณมีความพยายามมากพอที่จะเรียนรู้และศึกษามัน

ก่อนอื่น คุณจะต้องทำความรู้จักกับคำว่า “Keywords” เสียก่อน เมื่อผู้ใช้งานค้นหา Keywords เหล่านี้ คุณต้องการที่จะให้ร้านค้าออนไลน์ของคุณปรากฏ โดยที่เนื้อหาบนเว็บไซต์ของคุณจะต้องมีความเกี่ยวโยงกันกับ Keywords ที่คุณต้องการที่จะติดอันดับ มิเช่นนั้น Google อาจ ‘ทำโทษ’ คุณโดยการจัดให้เว็บของคุณอยู่ในอันดับล่าง ๆ ของการค้นหา

ดังนั้น Keyword ที่มีความเชื่อมโยงจึงสำคัญมากต่อการทำ Shopify SEO และสามารถเป็นได้ทั้งในรูปแบบของ Long-tail และ Short-tail Long-tail Keywords คือ Keyword ยาวและค่อนข้างเฉพาะสำหรับร้านค้า Shopify ของคุณและเหมาะสำหรับการค้นหาจากเดสก์ท็อป เนื่องจากว่าผู้ใช้มีเวลาในการค้นข้อมูลบนอินเตอร์เน็ตเพื่อหาสิ่งที่พวกเขาต้องการมากกว่า

ส่วน Short-tail Keywords คือ Keyword ที่สั้นและกว้าง เหมาะสำหรับการค้นหาบนมือถือที่ผู้ใช้มักที่จะใช้งานเมื่อออกไปข้างนอกและต้องการหาข้อมูลอย่างรวดเร็ว

Keywords ทั้งสองประเภทนั้นมีความสำคัญต่อร้านค้า Shopify ของคุณไม่น้อยไปกว่ากัน เพราะมีข้อดีที่แตกต่างกันออกไป ข้อดีของ Keywords ยาวคือมีความเฉพาะเจาะจงมากกว่าและมีการแข่งขันที่ต่ำกว่า ส่วน Keywords สั้นก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน เนื่องจากว่าผู้ใช้จำนวนมากใช้มือถือในการค้นหาและมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้น จึงทำให้ Google ให้ค่ากับการค้นหาบนมือถือเป็นอย่างมากและมีความสำคัญต่อการทำ SEO

ถึงอย่างไรก็ตาม การติดอันดับ Keywords ทั้งหมดก็คงจะไม่เกิดประโยชน์หากว่า Keywords เหล่านั้นดึง Traffic ที่ทำให้เกิด Bounce Rate สูงเนื่องจากว่า Keywords ไม่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์หรือบริการที่คุณมอบให้

หากว่าคุณมีปัญหากับการหา Keywords ที่ใช่สำหรับการทำ SEO คุณสามารถใช้เครื่องมือ SEO ต่าง ๆ เพื่อช่วยในการหา Keywords ที่ถูกค้นหามากที่สุดในอุตสาหกรรมของคุณ รวมไปถึง Keywords ที่คู่แข่งของคุณติดอันดับ

จากนั้นคุณจะต้องควบคุมปัจจัยเชิงเทคนิคของร้านค้า Shopify ของคุณ เช่นรูปแบบของการวางโครงสร้างเว็บไซต์รวมไปถึงเนื้อหาทั้งหมด และคุณจะต้องกำหนดการตั้งค่าทั้งหมดดังต่อไปนี้กับทุกหน้าบนเว็บไซต์

• Alt Text
• Page Title
• Meta Description
• H-Tags

เนื่องจาก Keywords คือส่วนสำคัญต่อการทำ Shopify SEO คุณจึงควรที่จะใส่ Keywords ใน H-Tags ด้วย Keywords จะต้องปรากฏใน H1 Tags และ Headings เสมอ แม้ว่าจะไม่จำเป็นที่จะต้องปรากฏในทุก ๆ ที่แต่ควรที่จะปรากฏซะโดยส่วนใหญ่ แนะนำให้ใส่ Keywords ใน Subheadings ด้วยแต่ไม่ต้องมากเท่า Headings 

ส่วนถัดมาในการทำ Shopify SEO คือการกำหนด Page Title และ Meta Description คุณสามารถที่จะดูตัวอย่างได้จากภาพด้านล่างนี้ Page Title และ Meta Description คือตัวหนังสือที่บอกผู้ใช้ว่าหัวข้อและเนื้อหาของเว็บไซต์นั้นเกี่ยวกับอะไร ดังนั้น Keywords ก็ควรที่จะปรากฏทั้งใน Page Title และ Meta Description โดยที่จะต้องดึงดูดความสนใจแก่ผู้ใช้งานที่กำลังค้นหา Keyword ที่คุณเลือก และเพิ่มโอกาสในการเยี่ยมชมให้แก่ร้านค้า Shopify ของคุณเหนือคู่แข่ง

ขั้นตอนที่ 3 คือการกำหนด ALT Text เมื่อคุณอัปโหลดรูปภาพไปยังเว็บไซต์ นี่คือตัวหนังสือที่ให้คำอธิบายรูปภาพดังกล่าว แม้ว่า Google จะสามารถทำความเข้าใจรูปภาพได้เป็นจำนวนมาก แต่มันก็ยังมีปัญหาในการอ่านรูปภาพอยู่ ดังนั้นคุณจึงควรช่วยทำให้ Search Engine เข้าใจได้ว่ารูปภาพของคุณนั้นเป็นรูปภาพอะไร และคุณก็ควรที่จะใส่ Keywords เป้าหมายลงในคำอธิบายดังกล่าวด้วย

ในขั้นตอนถัดไปจะเป็นการกำหนดกลยุทธ์ SEO ให้กับคอนเทนต์บนเว็บไซต์ของคุณ

คุณจำเป็นที่จะต้องเขียนคำอธิบายผลิตภัณฑ์ที่มีความยาวและเหมาะสมให้แก่สินค้าและบริการทั้งหมดของคุณ จากการกระทำดังกล่าว หน้าเว็บของคุณจะถูกมองว่าให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง Google จะมองว่าคุณเป็นผู้เชี่ยวชาญในสายและให้จัดให้คุณอยู่ในอันดับต้น ๆ ของการค้นหา คุณจะต้องใส่ Keyword เป้าหมายในเนื้อหา และ Keyword ควรที่จะปรากฏอย่างน้อย 2.3 ครั้งต่อ 100 คำ

ขั้นตอนสุดท้ายที่เราจะพูดถึงสั้น ๆ ก็คือการทำ Link Building การทำ Link Building หรือการสร้างลิงก์นั้นสำคัญต่อการสร้าง Authority ให้กับเว็บไซต์ของคุณ Link Building คือหัวข้อใหญ่ที่เราได้เขียนแยกไว้แล้วในอีกบทความ